เจ็บปวดจากการออกกำลังกายควรทำอย่างไร?เลือกใช้ผลิตภัณฑ์อะไรดี ?

Last updated: 30 ส.ค. 2567  |  236 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ออกกำลังกายแล้วมีอาการเจ็บปวด ควรทำอย่างไร

ออกกำลังกายแล้วมีอาการเจ็บปวด ควรทำอย่างไร?
ปวดหรือสัญญาณเตือน? จัดการกับความเจ็บปวดจากการออกกำลังกายอย่างมืออาชีพ
การออกกำลังกายควรเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่ง เหงื่อ และเอ็นโดรฟิน แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับความเจ็บปวด  อย่าตกใจนะเพื่อนฟิตเนส! ความเจ็บปวดระหว่างออกกำลังกายเป็นเรื่องปกติ แต่การเรียนรู้ที่จะแยกความแตกต่างระหว่างสัญญาณ  "ปวด" และ "สัญญาณเตือน" เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาความปลอดภัยและทำตามเป้าหมายการออกกำลังกายของคุณ
Ache กับ Alarm Spectrum: "ปวด" และ "สัญญาณเตือน"
1. อาการปวดกล้ามเนื้อ: นี่คืออาการปวดที่เป็นมิตรหลังการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นสัญญาณว่ากล้ามเนื้อของคุณกำลังทำงานและปรับตัวโดยปกติจะสูงสุดภายใน 24-72 ชั่วโมงหลังออกกำลังกาย และจะหายไปภายในไม่กี่วัน การยืดกล้ามเนื้ออย่างอ่อนโยน การคงความชุ่มชื้นและกิจกรรมเบาๆ สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้
2. ความเจ็บปวดจากสัญญาณเตือนภัย: นี่คือความเจ็บปวดเฉียบพลันและเฉียบพลันที่ต้องได้รับการดูแลทันที อาจส่งสัญญาณการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้น เช่น กล้ามเนื้อกระตุก เอ็นฉีกขาด หรือข้อตึง หยุดออกกำลังกายทันที ประคบน้ำแข็ง และยกบริเวณที่ได้รับผลกระทบให้สูงขึ้น
ต่อไปนี้คือตัวอย่างบางส่วนของผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บจากกีฬาได้ :
น้ำแข็งหรือแผ่นประคบเย็น: เป็นวิธีง่ายๆ และมีประสิทธิภาพในการลดอาการบวมและอักเสบ ให้ประคบเย็นบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บเป็นเวลา 20 นาที ทุกๆ 2-3 ชั่วโมง
ผ้าพันแผลหรือผ้าพันเคล็ด: สามารถช่วยพยุงและลดอาการบวมได้ มีหลายประเภทของผ้าพันแผล หรือผ้าพันเคล็ดให้เลือกประเภทที่เหมาะสมกับอาการบาดเจ็บของคุณ
ยาแก้ปวด: ที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ เช่น ไอบูโพรเฟนหรืออะเซตามิโนเฟนสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้
ครีมหรือเจลบรรเทาอาการปวด: ครีมหรือเจลบรรเทาอาการปวดที่มีส่วนผสม เช่น เมนทอล หรือยาชาเฉพาะที่ สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้เมื่อทาบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ
อุปกรณ์พยุง: เช่น เฝือกอ่อน หรือ สายพยุง สามารถช่วยพยุงและปกป้องบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ
อุปกรณ์กายภาพบำบัด: อุปกรณ์กายภาพบำบัด เช่น ลูกบอลยาง ยางยืด หรือเทปพันกล้ามเนื้อ สามารถใช้เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและปรับปรุงการเคลื่อนไหว
ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณจะขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของอาการบาดเจ็บของคุณ หากคุณไม่แน่ใจว่าควรใช้ผลิตภัณฑ์ใด ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
รีวิว 10 อันดับ ผลิตภัณฑ์บรรเทาอาการปวดจากการเล่นกีฬา พร้อมคุณสมบัติเด่น
สำหรับนักกีฬาหรือคนที่ชอบออกกำลังกาย อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกายเป็นเรื่องปกติ แต่การเลือกผลิตภัณฑ์บรรเทาอาการปวดที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและกลับมาออกกำลังกายได้อีกครั้ง วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 10 ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ พร้อมทั้งบอกถึงคุณสมบัติเด่นของแต่ละผลิตภัณฑ์
1. เจลเย็น

คุณสมบัติ: ช่วยลดอาการปวดบวม ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว
เหมาะสำหรับใช้หลังออกกำลังกายทันที
ข้อดี: เย็นสบายผิว ช่วยบรรเทาอาการปวดได้รวดเร็ว
ข้อเสีย: อาจทำให้ผิวแห้งได้หากใช้บ่อยเกินไป

2. ครีมร้อน
คุณสมบัติ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตลดอาการปวดเมื่อยเรื้อรัง
ข้อดี: ช่วยให้กล้ามเนื้ออบอุ่นขึ้น
ข้อเสีย: ไม่เหมาะสำหรับผิวบอบบาง


3. พลาสเตอร์ร้อน
คุณสมบัติ: ให้ความร้อนต่อเนื่อง ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย
ข้อดี: ใช้งานง่าย สะดวกในการพกพา
ข้อเสีย: อาจทำให้รู้สึกอับชื้นได้


4. สเปรย์เย็น
คุณสมบัติ: ช่วยลดอาการปวดบวม ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว
ข้อดี: เย็นสบายผิว กระจายตัวได้รวดเร็ว
ข้อเสีย: อาจทำให้ผิวเย็นชาเกินไป


5. ครีมนวด
คุณสมบัติ: ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เพิ่มความยืดหยุ่น
ข้อดี: ช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวเร็วขึ้น
ข้อเสีย: อาจทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ


6. ยาทาแก้ปวด
คุณสมบัติ: ช่วยบรรเทาอาการปวด ลดการอักเสบ
ข้อดี: มีให้เลือกหลายสูตร หลายความเข้มข้น
ข้อเสีย: ควรอ่านฉลากและคำแนะนำก่อนใช้


7. ลูกกลิ้งนวด
คุณสมบัติ: ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียด
ข้อดี: ใช้งานง่าย พกพาสะดวก
ข้อเสีย: อาจเจ็บหากกดแรงเกินไป


8. เกลืออาบน้ำ
คุณสมบัติ: ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดเมื่อย
ข้อดี: ช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย
ข้อเสีย: อาจทำให้ผิวแห้งได้


9. น้ำมันหอมระเหย

คุณสมบัติ: ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดความเครียด
ข้อดี: กลิ่นหอม ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
ข้อเสีย: ต้องผสมกับน้ำมันพื้นฐานก่อนใช้


10. เครื่องนวดไฟฟ้า
คุณสมบัติ: ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดเมื่อย
ข้อดี: มีหลายรูปแบบให้เลือก
ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง


ข้อควรระวัง:
ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ควรอ่านฉลากและคำแนะนำอย่างละเอียด
หากมีอาการแพ้หรือระคายเคือง ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์
สำหรับสตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์กับบาดแผลเปิด
เคล็ดลับเพิ่มเติม:
ประคบเย็น: ช่วยลดอาการบวมและปวด
ประคบร้อน: ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
พักผ่อนให้เพียงพอ: ร่างกายจะได้ฟื้นตัว
ดื่มน้ำให้มากๆ: ช่วยลดอาการอักเสบ
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
การเลือกผลิตภัณฑ์บรรเทาอาการปวดขึ้นอยู่กับชนิดของอาการปวดและความรุนแรงของอาการ หากอาการปวดไม่ทุเลาลง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง
หมายเหตุ: ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์

นี่คือเคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการบรรเทาอาการบาดเจ็บจากกีฬา:
  • พักผ่อน: สิ่งสำคัญคือต้องพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายของคุณมีเวลาในการรักษา
  • การบีบอัด: ใช้ผ้าพันแผลหรือผ้าพันแผลเพื่อพันบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บเพื่อช่วยลดอาการบวม
  • การยกระดับ: ยกบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บให้สูงเหนือระดับหัวใจเพื่อช่วยลดอาการบวม

หากอาการบาดเจ็บของคุณรุนแรงหรือไม่ดีขึ้นภายในเวลาไม่กี่วัน คุณควรไปพบแพทย์
ความเจ็บร้ายแรง:

1.ความเจ็บปวดเฉียบพลันเฉพาะที่: ไม่ใช่ความเจ็บปวดที่เป็นมิตร แต่เป็นความเจ็บปวดที่รุนแรงและเฉพาะเจาะจงที่แย่ลงเมื่อมีการเคลื่อนไหว
2.อาการบวมหรือความไม่แน่นอน: อาการบวมช้ำหรือโยกเยกที่เห็นได้ชัดเจนในบริเวณที่ได้รับผลกระทบ
3.อาการชาหรือรู้สึกเสียวซ่า: การสูญเสียความรู้สึกหรือความรู้สึกเข็มหมุดไม่ใช่สัญญาณที่ดี
4.ความเจ็บปวดที่คงอยู่หรือแย่ลง: หากความเจ็บปวดยังคงอยู่เกิน 2-3 วันหรือรุนแรงขึ้น ก็ถึงเวลาขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
จะทำอย่างไรเมื่อมีอาการปวด:

1. หยุดทันที: อย่าเจ็บปวด มันอาจทำให้อาการบาดเจ็บแย่ลงได้
2. น้ำแข็งและยกขึ้น: ใช้น้ำแข็งเป็นเวลา 15-20 นาที หลายครั้งต่อวัน และยกบริเวณที่ได้รับผลกระทบเพื่อลดอาการบวม
3. ขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: ปรึกษาแพทย์ นักกายภาพบำบัด หรือผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การกีฬาเพื่อรับคำแนะนำในการวินิจฉัยและการรักษา
4. พักผ่อนและปรับเปลี่ยน: ให้เวลาร่างกายของคุณได้รักษา ปรับกิจวัตรการออกกำลังกายของคุณเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความเจ็บปวดรุนแรงขึ้น

การป้องกันเป็นสิ่งสำคัญ:

1. Warm up และ cool down : เตรียมกล้ามเนื้อและข้อต่อด้วยการเคลื่อนไหวเบาๆ ก่อนและหลังออกกำลังกาย
2. ฟังร่างกายของคุณ: อย่าเพิกเฉยต่อสัญญาณความเหนื่อยล้าหรือความเจ็บปวด พักผ่อนวันเมื่อจำเป็น
3. ใช้รูปแบบที่เหมาะสม: ตรวจสอบเทคนิคที่ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงการออกแรงมากเกินไปและการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้น
4. ค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้น: อย่ากระโดดเข้าสู่การออกกำลังกายที่เข้มข้น สร้างระดับความฟิตของคุณอย่างต่อเนื่อง
5. รักษาร่างกายให้ชุ่มชื้นและเติมพลัง: การให้ความชุ่มชื้นและโภชนาการที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและป้องกันการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับความเหนื่อยล้า

     จำไว้ว่าความเจ็บปวดเป็นวิธีการสื่อสารของร่างกายคุณ เคารพสัญญาณของมัน จัดลำดับความสำคัญของการฟื้นตัวและขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเมื่อจำเป็น ด้วยการนำทางสเปกตรัมความเจ็บปวดเทียบกับสัญญาณเตือนอย่างชาญฉลาดคุณจะปลอดภัย หลีกเลี่ยงความล้มเหลว และเดินทางต่อในการออกกำลังกายด้วยความมั่นใจ
เคล็ดลับพิเศษ: ลองรวมแนวทางปฏิบัติต่างๆ เช่น การเล่นโฟมโรล การออกกำลังกายแบบแอคทีฟ เช่น การว่ายน้ำ และเทคนิคการฝึกสติเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและป้องกันความเจ็บปวดในอนาคต
ดังนั้นจงก้าวต่อไป ฟังต่อไป และเรียนรู้ต่อไป โอบกอดความเจ็บปวดไว้เป็นแนวทาง ไม่ใช่อุปสรรค และพิชิตเป้าหมายการออกกำลังกายของคุณด้วยทางเลือกที่มีข้อมูลและการเคารพขีดจำกัดของร่างกาย มีความสุขในการออกกำลังกาย!

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้