แนะนำ 10 อันดับ ครีมกันแดด คุณภาพที่ช่วยป้องผิวจากแสงแดด

Last updated: 16 ส.ค. 2567  |  1577 จำนวนผู้เข้าชม  | 

แนะนำ 10 อันดับ ครีมกันแดด คุณภาพที่ช่วยป้องผิวจากแสงแดด

      ปัจจัยที่เลี่ยงไม่ได้ ของประเทศไทยก็คือแสงแดดที่เต็มไปด้วยรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสี UV ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ ไหนกลางแจ้งในร่ม ก็จะล้วนมีรังสี UV ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟ ทีวีหรือแม้แต่มือถือก็ มีรังสี UV ทั้งนั้นแล้วสาวๆมี วิธีป้องกันยังไงกันบ้างคะ 
รังสี UV เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง?
รังสียูวี(UV)เป็นตัวที่ก่อให้เกิดปัญหา ผิวหน้า เช่น หน้ามัน เป็นสิว ผิวหยาบกร้านสี ผิวไม่เท่ากัน จุดด่างดำ ฝ้า กระ  ริ้วรอย ร่องลึกแก่ก่อนวัย ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้น รวมถึงมะเร็งผิวหนัง
การแก้ปัญหาผลกระทบจากรังสี UV?
      เป็นเรื่องยากที่ เราจะหลีกเลี่ยงจากรังสียูวี( UV) เพราะฉะนั้น เราควรหาอะไรมาป้องกันผิวไม่ให้ถูกรังสียูวี(UV) ครีมกันแดดมีส่วนสำคัญในการปกป้องรังสียูวีถึงแม้จะป้องกันไม่ได้ 100% แต่คุณก็สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือโดนแสงยูวี(UV)ได้มากขึ้น โดยที่ผิวไม่เกิดปัญหาผิวต่างๆตามมา 
ค่าต่างๆบนฉลากครีมกันแดดหมายถึงอะไร?
SPF  คือ อะไร ?
SPF ย่อมาจาก Sun Protection Factor เป็นค่าที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของครีมกันแดดในการป้องกันรังสี UVB ซึ่งทำให้ผิวไหม้ SPF 30 หมายความว่า ครีมกันแดดสามารถช่วยยืดเวลาการไหม้ของผิวได้นานถึง 30 เท่าและเป็นตัวชี้วัดว่าครีมกันแดดมีค่าการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตบี (UVB) ได้เท่าไหร่ 
รังสีอัลตราไวโอเลตบี (UVB)  คือสาเหตุที่ทำให้ผิวถูกแดดเผา
รังสีอัลตราไวโอเลตเอ (UVA)  คือสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้
( ในครีมกันแดดส่วนใหญ่ไม่ได้ บอกค่าการป้องกันรังสียูวีเอไว้ )
ตัวอย่าง เช่น
ค่าSPF 30 สามารถปกป้องผิวจากการไหม้ แดด 30%ป้องกันรังสียูวีบี ( UVB) ได้ 97% 
ถ้าSPF 50 สามารถปกป้องผิวจากการไหม้ แดด 50% ป้องกันรังสียูวีบี ( UVB) ได้ 98%
ค่า PA คือ?
ค่าวัดระดับการป้องกันรังสียูวีเอ หรือ รังสีอัลตราไวโอเลตเอ (UVA)ระบุค่าความสามารถเป็นเครื่องหมาย + เช่น
  • PA+ ป้องกันผิวจากความหมองคล้ำ ได้ 2-4 เท่า
  • PA++ ป้องกันผิวจากความหมองคล้ำ ได้ 4-8 เท่า
  • PA+++ ป้องกันผิวจากความหมองคล้ำ ได้ 8-16 เท่า
  • PA++++ สามารถป้องกันผิวจากความหมองคล้ำได้มากกว่า 16 เท่า
ควรเลือกค่า SPF เท่าไหร่?
ค่า SPF ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่คุณทำ
  • SPF 15-30 เหมาะสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวัน
  • SPF 30-50 เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน
  • SPF 50+ เหมาะสำหรับการไปทะเลหรือเล่นสกี
วิธีเลือกครีมกันแดด
เพราะผิวคุณต้องการการปกป้องที่ ดีนะเพราะฉะนั้นควรพิจารณาคุณสมบัติของครีมกันแดดโดยรวมเป็นหลักเพื่อให้เหมาะกับความต้ องการที่คุณจะใช้
  1. สามารถป้องกันได้ทั้งยูวีเอ ( UVA) และยูวีบี (UVB)
  2. มีค่าเอสพีเอฟ( SPF )30 ขึ้นไป
  3. สามารถกันน้ำกันเหงื่อระหว่างวันได้นานแค่ไหน
    นอกจากพิจารณาคุณสมบัติหลักเหล่านี้แล้วก็ให้พิจารณาการใช้งานแล้วก็รูปแบบของครีมกันแดดให้เหมาะกับความต้องการของเรา เช่นถ้าคุณต้องทำงานกลางแดดก็ให้เลือกที่มี ค่า SPF สูงๆหรือค่าPA ++++ เพื่อการปกป้องผิวที่ดีกว่ า แต่ถ้าคุณทำงานในร่มก็ไม่จำเป็นต้องใช้ครีม ครีมกันแดด ที่มีค่า SPF  สูงๆ ใช้แค่ค่า SPF  ไม่เกิน 15 ค่า PA ++ ก็พอ
ครีมกันแดดมีรูปแบบไหนบ้าง?
ครีมกันแดดมีหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป รูปแบบครีมกันแดดที่พบบ่อย ได้แก่
1. ครีม (Cream): เหมาะสำหรับผิวแห้ง เกลี่ยง่าย ให้ความชุ่มชื้น
2. โลชั่น (Lotion): เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว เกลี่ยง่าย ซึมซาบเร็ว
3. เจล (Gel): เหมาะสำหรับผิวมัน ซึมซาบเร็ว ไม่อุดตันรูขุมขน
4. สเปรย์ (Spray): สะดวก รวดเร็ว เหมาะสำหรับทาซ้ำ แต่ต้องระวังการสูดดม
5. สติ๊ก (Stick): พกพาสะดวก เหมาะสำหรับทาบริเวณริมฝีปากและรอบดวงตา
6. แป้ง (Powder): เหมาะสำหรับทาซ้ำ ควบคุมความมัน เหมาะสำหรับผิวผสมและผิวมัน
รีวิวครีมกันแดด 5 แบรนด์ดัง: เลือกตัวไหนดีให้ผิวสวยปัง!
อยากผิวสวยใส ไร้กังวลเรื่องแสงแดด การเลือกครีมกันแดดที่ดีจึงสำคัญมาก วันนี้เราจะพาไปเจาะลึก รีวิวครีมกันแดด 5 แบรนด์ดัง ที่ได้รับความนิยมและน่าสนใจ มาดูกันว่าแต่ละตัวมีจุดเด่นอย่างไร และเหมาะกับสภาพผิวแบบไหนบ้าง
1. ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF 50+ PA++++:
จุดเด่น: กันน้ำ กันเหงื่อได้ดีเยี่ยม เนื้อบางเบา ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง
เหมาะสำหรับ: ผิวผสม ผิวมัน เน้นปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างเต็มที่
2. Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++:
จุดเด่น: เนื้อเอสเซนส์บางเบา เหมือนน้ำ ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ให้ความรู้สึกสดชื่น เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
เหมาะสำหรับ: ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย เน้นความบางเบา สบายผิว
3. Eucerin Sun Dry Touch Acne Oil Control Face SPF50+ PA+++:
จุดเด่น: ควบคุมความมันได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับผิวมันและผิวเป็นสิว ช่วยลดการเกิดสิวอุดตัน เนื้อบางเบา ซึมไว
เหมาะสำหรับ: ผิวมัน ผิวเป็นสิว เน้นควบคุมความมันและป้องกันสิว
4. MizuMi UV Water Defense SPF50+ PA++++:
จุดเด่น: เป็น Physical Sunscreen ปราศจากสารกันแดดแบบเคมี เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย เนื้อบางเบา ซึมไว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
เหมาะสำหรับ: ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย เน้นความอ่อนโยนต่อผิว
5. L'OREAL UV Perfect Instant White SPF50+/PA++++:
จุดเด่น: ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นทันที เนื้อครีมบางเบา ไม่หนักผิว ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB
เหมาะสำหรับ: ผิวต้องการความกระจ่างใส เน้นการปกป้องผิวและบำรุงผิวในขั้นตอนเดียว
ปัจจัยสำคัญในการเลือกครีมกันแดด
สภาพผิว: เลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง เช่น ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย
กิจกรรม: หากทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อย ควรเลือกกันแดดที่กันน้ำ กันเหงื่อได้ดี
ไลฟ์สไตล์: หากต้องการความสะดวกสบาย ควรเลือกเนื้อครีมที่บางเบา ซึมไว
ส่วนผสม: หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่แพ้หรือก่อให้เกิดการระคายเคือง
เคล็ดลับการใช้ครีมกันแดด
ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ: ทาให้ทั่วถึงและหนาพอสมควร
ทาก่อนออกแดด 15-20 นาที: เพื่อให้ครีมกันแดดได้ทำงานอย่างเต็มที่
ทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง: หรือบ่อยกว่านี้หากทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือเหงื่อออกมาก
สรุป
การเลือกครีมกันแดดที่ดี เป็นการลงทุนเพื่อผิวสวยในระยะยาว การอ่านรีวิวและเปรียบเทียบคุณสมบัติของแต่ละผลิตภัณฑ์ จะช่วยให้คุณเลือกครีมกันแดดที่ตอบโจทย์ความต้องการได้มากที่สุด
หมายเหตุ: ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ควรทดลองใช้กับผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้ทั่วใบหน้า
คำแนะนำเพิ่มเติม: หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลือกครีมกันแดด ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตัวไหน สามารถสอบถามได้เลยนะคะ
ครีมกันแดดควรทาอย่างไร ?
  • ทาครีมกันแดดให้ทั่วใบหน้าและลำตัวก่อนออกแดด 15-30 นาที
  • ทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือหลังจากว่ายน้ำหรือเหงื่อออก
  • ทาครีมกันแดดให้เพียงพอ ประมาณ 2 ช้อนชาสำหรับทั้งร่างกาย
  • ครีมกันแดด เป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องผิวจากแสงแดด ควรเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของคุณ และทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
ครีมกันแดดกันน้ำได้หรือไม่?
ครีมกันแดดบางชนิดมีคุณสมบัติกันน้ำ ครีมกันแดดกันน้ำจะคงประสิทธิภาพแม้จะว่ายน้ำหรือเหงื่อออก แต่ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง
ครีมกันแดดหมดอายุหรือไม่?
ครีมกันแดดมีอายุการใช้งานประมาณ 3 ปี ควรตรวจสอบวันหมดอายุบนขวดครีมกันแดด และไม่ควรใช้ครีมกันแดดที่หมดอายุ
ครีมกันแดดอันตรายหรือไม่?
ครีมกันแดดบางชนิดอาจมีส่วนผสมที่ระคายเคืองต่อผิวหนัง ควรเลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ
เด็กทารกควรทาครีมกันแดดหรือไม่?
เด็กทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือนควรหลีกเลี่ยงการทาครีมกันแดด ควรปกป้องเด็กทารกจากแสงแดดด้วยวิธีอื่น เช่น สวมหมวก ใส่เสื้อผ้ามิดชิด และอยู่ใต้ร่มเงา
      ครีมกันแดด เป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องผิวจากแสงแดด ควรเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของคุณ และทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ

      การป้องกันนั้นดีกว่าการแก้ไข ถ้าผิวคุณได้รับผลกระทบกจากปัญหาแสงแดด ที่ส่งผลให้เกิดผิวหน้ามัน สีผิวไม่เท่ากันเกิดสิว ฝ้า กระ หมองคล้ำและริ้วรอยต่างๆการแก้ปัญหาก็อยากขึ้นแล้วต้องใช้ขั้นตอนในการดูแลรักษาและปกปิดมาก ถ้าคุณไม่อยากเสียเวลาก็ควรใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว สวยใส ของคุณ
 
 เมื่อผิวได้รับผลกระทบเหล่านี้จากแสงแดดแล้วคุณพร้อมหรือยังที่จะแต่งหน้าหรือมารู้จัก
ขั้นตอนการแต่งหน้ามีบางอย่างตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ
#ครีมกันแดด #รีวิวครีมกันแดด #ผิวสวย #บำรุงผิว

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้